วันเสาร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2556

การเรียนรู้จาก Google Map Street View



           Google Maps อีกหนึ่งบริการเด่นของกูเกิลที่หลาย ๆ คนคุ้นเคย ที่ช่วยให้เราสามารถดูแผนที่ในรูปแบบภาพถ่ายจากดาวเทียม และสำหรับประเทศไทยเพื่อให้การใช้งานบริการแผนที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยจาก Google Maps เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น Google ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถ่ายรูปเส้นทางต่าง ๆ และสถานที่สำคัญในประเทศไทยมาทำเป็น Street View ลงเว็บไซต์แผนที่ Google Maps โดยถ่ายภาพอุปกรณ์ถ่ายภาพแบบเคลื่อนที่ โดยติดตั้งบนรถยนต์ รุ่น Subaru Impreza จำนวน 15 คัน ขับตระเวนขับไปตามเส้นทางถนนต่าง ๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย โดยรูปภาพที่ได้จากภาพมุมมอง Google Street View นั้นเป็นภาพรอบ ๆ ถนนที่สามารถชมได้แบบ 360 องศา ซึ่งในปัจจุบันบริการ Google Street View นั้นมีให้บริการแล้วกว่า 30 ประเทศทั่วโลก 

         ล่าสุดในประเทศไทยสามารถใช้งาน  Google Street View ได้แล้ว โดยสามารถเข้าไปใช้งานผ่านทาง maps.google.com สำหรับ Google Street  View ขณะนี้สามารถดูเฉพาะในกรุงเทพฯ, ปริมณฑล จังหวัดเชียงใหม่ และเส้นทางจากกรุงเทพลงสู่ภาคใต้ จนถึงจังหวัดภูเก็ตทั้งจังหวัด ที่สามารถใช้งาน Google Street View ได้ และคาดว่าเส้นทาง รวมถึงสถานที่อื่น ๆ ในจังหวัดอื่น ๆ คงทะยอยอัพเดทเร็ว ๆ นี้  


วิธีการใช้งาน Google Street View Thailand

 1. ให้เราเข้าไปยังเว็บไซต์  http://maps.google.com
 2. จะมีสัญลักษณ์ตุ๊กตาสีส้มที่อยู่ทางซ้ายของแผนที่ 
 3. ให้เราลากไอคอนตุ๊กตาสีส้ม จากทางด้านซ้ายของแผนที่ไปยังถนน จังหวัด เมืองที่ต้องการที่เป็นเส้นไฮไลท์สีฟ้า

 4. จากนั้นรูปภาพ Street View จะแสดงรูปขึ้นมา เราดูภาพแบบ 360 องศา โดยใช้เมาส์หมุนภาพไปรอบ ๆ ได้ หากต้องการเลื่อนไปยังตำแหน่งอื่น ให้ลากตุ๊กตาสีส้ม จากแผนที่เพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง ดูรูปประกอบด้านล่าง

          สำหรับใครที่อยากทราบว่าจังหวัด สถานที่ใดก็ตาม ถูกแสดงบน Google Street View แล้วหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้จาก Google Maps Street View เพียงเท่านี้เราก็จะทราบแล้วว่าพื้นที่ไหน จังหวัดไหน มีการอัพเดทของ Google Street View แล้วบ้าง 

ตัวอย่างภาพจาก  Google Street View Thailand บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ






ข้อมูลเพิ่มเพิ่มเติม

http://men.kapook.com/view38746.html





การเรียนรู้จากการศึกษาดูงาน โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 1(ราชบุรี)





โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ 1 

เป็นผู้ก่อตั้งและบริหารงาน ปัจจุบันนี้บุตรธิดาเป็นผู้บริหารงานแทน ซึ่งเนื้อที่เดิมที่เริ่มก่อตั้งนั้นมีเพียง 7 ไร่ แต่ปัจจุบันได้ขยายกิจการออกเป็นถึง 22 ไร่แล้ว

แหล่งดิน

    1. ดินที่ใช้อยู่เป็นดินท้องนา ก่อนที่จะนำมาใช้จะต้องลอกหน้าดินออกก่อนประมาณ 1-1.5 เมตร แล้วนำมาตรวจสอบว่ามีคุณสมบัติพร้อมที่จะนำมาใช้งานได้หรือไม่

        2. แหล่งดินอยู่ที่ตำบลหลุมดิน ห่างจากโรงงานประมาณ 7-8 กม.

      3.เมื่อได้ดินที่ต้องการแล้วจะขุดดินนำมาเก็บไว้เพื่อให้ใช้ได้ทั้งปี โดยจะดำเนินการเก็บดินไว้ในช่วง เมษายน-พฤษภาคม

การเขียนลายลงบนโอ่ง จะมีลักษณะเฉพาะไม่เหมือนการเขียนลายเซรามิกส์ประเภทอื่น วัสดุที่ใช้เขียนลายบนโอ่งจะเป็นดินเหนียวผสมกับดินขาวนวดจนเนื้อดินนิ่ม เนื้อดินจะต้องร่อนพิเศษให้มีเนื้อละเอียดมากเท่าที่จะทำได้ เรียกว่า   ดินติดดอก  ดินติดดอกเป็นดินสำหรับติดลายบนโอ่ง (จะขับให้เคลือบออกสีเหลือง ในขณะที่พื้นเดิมจะเป็นสีน้ำตาล) เมื่อโอ่งแต่งผิวเรียบร้อยแล้ว จะถูกนำมาวางบนแท่นหมุนอีกครั้ง แท่นนี้จะหมุนด้วยมือ ช่างติดลายจะใช้ดินติดดอกปั้นเป็นเส้นเล็กๆ ป้ายติดไปที่โอ่งสามตอนเพื่อเป็นการแบ่งโอ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงปากโอ่ง (บ่า) ตัวโอ่ง (ไหล่) และเชิงล่างของโอ่ง (ขา) แต่ละช่วงติดลายไม่เหมือนกัน (สมัยก่อนติดลาย  2 ช่วงคือ  ปากโอ่ง และตัวโอ่ง ส่วนช่วงขาบางครั้งติดเป็นลายกนก ลายเครือวัลย์ ลายไขว้ เป็นต้น)

ช่วงปากโอ่ง นิยมติดลายดอกไม้หรือลาย เครือเถา เพื่อความสะดวกรวดเร็วและความเป็นระเบียบสวยงาม การติดลายช่วงนี้จะมีแบบฉลุแผ่นพลาสติกใสเป็นลายที่ต้องการเอาไว้เวลาติดลาย ช่างจะนำเอาแบบฉลุมาทาบลงบนผิวโอ่ง แล้วนำดินติดดอกกดปาดลงบนแบบฉลุพอยกแบบออกดินติดดอกจะไปติดบนผิวโอ่งเป็นลวดลายตามแบบนั้นๆ ตัวโอ่ง นิยมเขียนเป็นรูปมังกรในลักษณะต่างๆ เช่น ตัวมังกรตัวเดียว (ปัจจุบันนิยมทำ) มังกรคาบแก้ว มังกรสองตัวเกี่ยวกัน มังกรสองตัววิ่งไล่กัน (สมัยแรกนิยมทำ) ช่างจะอาศัยความชำนาญในการติดลาย ไม่มีการร่างเป็นรูปก่อน โดยป้ายดินจากส่วนหัวเรื่อยมายังส่วนอก ท้อง และลากหางขดยาวไปตามจินตนาการเติมรายละเอียดในส่วนหัว  เมื่อได้ตัวมังกรแล้วจะใช้เหล็กแหลมวาดลวดลายเป็นหน้า จมูก ฟัน ลิ้น เขา ใช้หวีหัก แต่งเป็นขนคอใช้เหล็กที่งอเป็นรูปเล็บมือประมาณ 4-5 ซี่สักให้เป็นเกล็ดมังกร ส่วนหางจะใช้ดินป้ายให้ยาวคล้ายไม้กวาด พร้อมเติมเมฆ และพระอาทิตย์ตามจินตนาการของผู้ติดลายการเขียนหรือเรียกให้ถูกว่าติดลายมังกรนี้ถือเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะโอ่งจะสวยสะดุดตามากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับลาย ช่างบางคนมีความสามารถพิเศษ สามารถปั้นหัวมังกรติดตัวมังกรซึ่งเป็นภาพมิติเดียวแล้วทำให้ดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น (ปัจจุบัน มีฉลุแผ่นพลาสติกใสเป็นลายมังกรออกจำหน่าย สร้างความสะดวกให้กับเจ้าของโรงงาน) ช่วงเชิงด้านล่างโอ่งช่างจะติดลายวิธีเดียวกับช่วงปากโอ่งแต่ลายช่วงนี้จะ เป็นแบบง่ายๆ  


-  เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นค่ะ
-  
ห้ามถ่ายภาพการทำโอ่ง(เด็ดขาด)นะคะ
-  
ถ้าต้องการติดต่อศึกษาดูงาน โอ่งรัตนโกสินทร์ 1  0-3231-6788, 0-3232-1322-3 
หรือติดต่อได้ที่ www.potterythai.com 
ตั้งอยู่ที่  ทางหลวงหมายเลข 4 ต.โคกหม้อ อ.เมืองราชบุรี 


การเดินทาง


ภาพจากการศึกษาดูงาน






     








ข้อคำถาม / คำตอบ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่,วิทยากร



นักศึกษา : ใช้เวลาในการปั้นลายโอ่งกี่วัน/ใบ และเนื้อดินที่ปั้นโอ่งมาจากที่ไหน

เจ้าหน้าที่ : วันหนึ่งก็ใช้เวลาในการปั้นลายโอ่งก็ประมาณ 4 - 5 วัน/ใบ แล้วเนื้อดินที่นำมาปั้นโอ่งต้องสั่งมาจาก จ.ระนอง เพราะเป็นดินเค็มเหมือนกันที่ราชบุรี ในการที่จะปั้นลายโอ่งได้ต้องใส่ผิวดินที่เหมือนกันถึงจะปั้นลายโอ่งได้(บางทีก็เอาดินจากที่อื่นก็ได้แต่ต้องเป็นเนื้อดินเดียวกันเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะใช้ดินที่ จ.ระนองมากกว่า)
  

ข้อมูลเพิ่มเติม